หลวงปู่ทอง ปภากโร แห่งวัดบ้านคูบ หมู่ 3 ต.คูบ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ

พระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้ ที่ชาว จ.ศรีสะเกษ ให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นพระเถระที่รักสันโดษ พูดน้อย มีความเป็นอยู่อย่างสมถะเรียบง่าย ยังคงห่มจีวรผืนเก่าๆ แม้มีผู้นำมาถวายให้ก็จะนำไปมอบให้พระภิกษุรูปอื่น

อีกทั้งยังเป็นศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่สำเร็จลุนบรมครูผู้วิเศษ แห่งนครจำปาศักดิ์ ฝั่ง สปป.ลาว ปัจจุบันยังดำรงชีวิตอยู่ในวัย 114 ปี มีนามเดิมว่า ทอง สิงห์ซอม

เกิดเมื่อ วันที่ 4 ม.ค.2449 เป็นชาวบ้านคูบ หมู่ 3 ต.คูบ อ.น้ำเกลี้ยง โดยกำเนิด บิดา–มารดา ชื่อ นายดอ และนางสิงห์ สิงห์ซอม มีอาชีพทำนา จบชั้น ป.4

พ.ศ.2513 ขณะมีอายุ 49 ปีเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ที่พัทธสีมาวัดบ้านคูบ บวชได้นานหลายปีจนได้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านคูบ แต่ลาออกและลาสิกขาไปใช้ชีวิตฆราวาส

ต่อมาขณะมีอายุ 72 ปี จึงเข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง ที่อุโบสถวัดสว่างวารีรัตนาราม โดยมีพระครูสุทธิธรรม หรือหลวงปู่วัลลภ เจ้าคณะอำเภอน้ำเกลี้ยง เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังจากนั้นได้ออกเดินธุดงค์ไปในพื้นที่ป่าเขาลำเนาไพร ฝั่งชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ ก่อนเดินทางข้ามไปในป่าลึกฝั่งประเทศลาวและประเทศกัมพูชา เพื่อปฏิบัตินั่งภาวนาจิต เพื่อให้เกิดสติปัญญา เพื่อการหลุดพ้นจากกิเลส ตัณหา และอุปทานทั้งปวง

เมื่อได้ปฏิบัติสำเร็จบรรลุธรรมตามที่หลวงปู่ได้ตั้งใจแล้ว ได้เดินธุดงค์จากฝั่งลาว ลัดเลาะตามชายแดนด้าน จ.อุบลราชธานี ก่อนมุ่งหน้าสู่วัดมาตุภูมิบ้านเกิด พัฒนาเสนาสนะและถาวรวัตถุในวัดสืบมาจนปัจจุบัน แต่ด้วยสังขารที่ร่วงโรย ตอนนี้จะรับกิจนิมนต์เฉพาะในวัด และนอกวัดรับกิจสงฆ์ในบางครั้ง

อย่างไรก็ดี จากประวัติอันน่าสนใจทั้งเรื่องของความแก่กล้าในวิชาอาคม และความแตกฉานในความรู้ด้านพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ แม้หลวงปู่จะมีท่าทีการแสดงออกที่ตรงไปตรงมา แต่ลูกศิษย์ทุกคนกลับทราบดีว่าหลวงปู่นั้นมีจิตเมตตาเป็นอย่างยิ่งกับลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่ทุกคน ท่านนั้นมีจิตที่แจ่มใส หมดสิ้นแล้วซึ่งกิเลส เป็นที่พึ่งทางธรรมทางจิตใจให้แก่ญาติโยมทุกคนอย่างแท้จริง สาธุ

Loading